ฝึกอ่านหนังสือแบบจับใจความ และตั้งใจในการอ่าน – อันนี้คิดว่าหลายคนคงมีวิธีอ่านหนังสือของตัวเองอยู่แล้ว แต่แนวที่ผมใช้คือ ผมจะอ่านสารบาญให้เข้าใจโครงสร้างหนังสือก่อน เพื่อที่เราจะได้มีเป้าหมายก่อนว่าอ่านคัมภีร์เล่มนี้แล้วจะได้อะไร จากนั้นไล่จับใจความในแต่ละหัวเรื่อง และตั้งคำถามกับตัวเองว่าในแต่ละบทได้อะไร แบบนี้จะทำให้เราศึกษาเล่าเรียนได้ไวขึ้น
วิถีทางศึกษาธุรกิจดิจิทัล ฝึกอ่านหนังสือแบบจับใจความ และตั้งเป้าหมายในการอ่าน
ฝึกอ่านหนังสือแบบจับใจความ และตั้งใจในการอ่าน – อันนี้คิดว่าหลายคนคงมีวิธีอ่านหนังสือของตัวเองอยู่แล้ว แต่แนวที่ผมใช้คือ ผมจะอ่านสารบาญให้เข้าใจโครงสร้างหนังสือก่อน เพื่อที่เราจะได้มีเป้าหมายก่อนว่าอ่านคัมภีร์เล่มนี้แล้วจะได้อะไร จากนั้นไล่จับใจความในแต่ละหัวเรื่อง และตั้งคำถามกับตัวเองว่าในแต่ละบทได้อะไร แบบนี้จะทำให้เราศึกษาเล่าเรียนได้ไวขึ้น
การดูแลบงกชในช่วงฤดูหนาว
ในปัจจุบันมีผู้นิยมเลือกซื้อ"บัว" มาปลูกเลี้ยงประดับบ้านกันเป็นจำนวนมาก แต่ปรากฏว่า เมื่อเข้าสู่เหมันต์ บัวเหล่านั้นมักจะแห้งและตาย ไปในที่สุด ในเรื่องนี้ ดร.เสริมลาภ วสุวัต ผู้ชำนาญพิเศษบัวแห่งประเทศไทย จึงขอเสนอแนะขบวนการปลูกเลี้ยงบัวประดับในช่วงฤดูหนาวว่า ในช่วงนี้ตามปกติบัว และไม้น้ำหลายชนิด จะพักการเจริญเติบโต โดยสลัดใบทิ้ง อาหารที่สะสมไว้จะเปลี่ยนสภาพ จากน้ำตาลเป็นแป้ง เพื่อเก็บไว้ในต้น หน่อหรือเหง้า เมื่อหมดฤดูหนาวจะนำอาหารที่สะสมไว้ มาใช้เพื่อการเติบโตใหม่อีกครั้ง
การสลัดใบของบัว จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพสมดุลในน้ำ ตามปกติเมื่อบัว มีการเติบใหญ่เต็มที่และมีใบที่สมบูรณ์ ในช่วงทิวา ใบจะปรุงอาหารและระบายออกซิเจนลงในน้ำ ทำให้น้ำสะอาดและเกิดดุลภาค แต่เมื่อมีการสลัดใบทิ้ง ปริมาณออกซิเจนจึงลดลง แต่ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เกิดจากการผุผังสลายของรากบัว หรีอการตายของพืชใต้น้ำ มีเพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลให้น้ำในภาชนะที่เลี้ยงบัวเน่าเสีย ทำให้หน่อ หรือเหง้าเน่าตายไปด้วย
เพราะเช่นนั้นผู้เลี้ยงบัวประดับ จะต้องหมั่นคอยเก็บซากตะไคร่ สาหร่าย และวัชพืชน้ำ ที่ตายอยู่ในภาชนะบัวออก และเมื่อพบว่าน้ำเริ่มเน่า จะต้องถ่ายน้ำทันที (แต่ถ้าพ้นฤดูหนาวไปแล้ว บัวจะเจริญเติบโตใหม่ ไม่แนะนำให้ถ่ายน้ำบ่อย ๆ) สำหรับผู้ที่เลี้ยงบัวไม่มากนัก จะใช้วิธีเก็บหน่อหรือเหง้าเข้าตู้เย็นในชั้นที่เก็บผัก ซึ่งมีอุณหภูมิระหว่าง 5-10 องศาเซลเซียส เมื่อผ่านพ้นหน้าหนาวแล้วค่อยนำออกมาปลูกใหม่ก็ได้ หากผู้เลี้ยงบัว ไม่ต้องการเก็บหัวหรือเหง้าไปแช่ ตู้เย็น ใช้ด่างทับทิมละลายน้ำในภาชนะที่ปลูกบัวให้เป็นสีบานเย็น จะพบว่า ภายใน 2 วัน ตะไคร่น้ำ และสาหร่ายที่หลงเหลืออยู่จะตายหมด จนเป็นตะกอนสีน้ำตาลที่ก้นภาชนะ ให้เก็บซากทิ้งและดูดน้ำออก จนเหลือน้ำประมาณครึ่งหนึ่งของภาชนะ จากนั้นเติมน้ำจืดลงไปให้เท่าเดิม
Subscribe to:
Comments (Atom)